เลือก คลินิกรักษาสัตว์ ที่มีบริการตรวจรักษาครบวงจร

น้อง ๆ สัตว์เลี้ยงเองก็เป็นสมาชิกสำคัญในครอบครัวของหลาย ๆ คน หากพวกเขาเจ็บป่วยขึ้นมา เจ้าของเองก็คงอยากให้ได้รับการรักษาที่ดี สำหรับบางคนแล้วสัตว์เลี้ยงนั้นถือเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่หากเพื่อนที่ดีที่สุดของเรานั้นเกิดอาการเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุโดยไม่คาดคิด เราก็จำเป็นจะต้องรีบหาทางรักษากับสัตวแพทย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ บางแห่งเป็น คลินิกรักษาสัตว์ โรคทั่วไป บางแห่งก็เป็นโรงพยาบาลใหญ่ที่ให้การรักษาครอบคลุม มีอุปกรณ์ครบครัน ทันสมัยและให้บริการอย่างดี วิธีการเลือก คลินิกรักษาสัตว์ เพื่อให้ สามารถเลือก คลินิกรักษาสัตว์ ได้อย่างครบวงจร มีบริการนอกสถานที่หรือรับส่งสัตว์เลี้ยงและมีคลินิกเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงบางชนิด

วิธีการเลือกคลินิกรักษาสัตว์
ในการเลือก คลินิกรักษาสัตว์ แนะนำให้เลือก ที่มีบริการตรวจรักษาครบวงจร ให้บริการนอกสถานที่หรือมีบริการรับส่งให้ มีแผนกแยกประเภทสำหรับสัตว์เลี้ยง หรือเปิดตลอด 24 ชั่วโมงสำหรับกรณีที่เกิดเหตุด่วนเหตุร้ายกับสัตว์เลี้ยง โดยมีรายละเอียดดังนี้

คลินิกรักษาสัตว์ที่มีบริการตรวจรักษาครบวงจร
คลินิกรักษาสัตว์ ที่มีบริการตรวจรักษาครบวงจรส่วนใหญ่จะเป็นโรงพยาบาลใหญ่ ซึ่งข้อดี ที่มีบริการตรวจรักษาครบวงจร คือ เราจะสามารถตรวจวินิจฉัยภายในอวัยวะต่าง ๆ ของสัตว์เลี้ยงได้อย่างละเอียด เพราะไม่เพียงแค่รักษาโรคทั่วไปแต่จะมีศูนย์เฉพาะทางหรือคลินิกเฉพาะทางสำหรับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยแต่ละแผนกก็จะมีเครื่องมือเฉพาะของตนเอง จึงมีความพร้อมในการรักษาโรคร้ายแรงมากกว่าคลินิกขนาดเล็กทั่วไป และยังทำให้ประสิทธิภาพของการรักษานั้นมีมากขึ้นด้วย

คลินิกรักษาสัตว์ ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
อาการป่วยและอุบัติเหตุขอสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด จึงขอแนะนำให้ เลือก คลินิกรักษาสัตว์ ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความอุ่นใจและความปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยคลินิกบางแห่งจะมีผู้เชี่ยวชาญหรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีคอยให้บริการ แต่บางแห่งก็มีสัตวแพทย์อยู่ประจำเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะคอยอยู่ดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณให้ปลอดภัยหากเกิดเหตุฉุกเฉินในยามคับขันหรือเกิดเหตุขั้นวิกฤตที่ไม่สามารถรอเวลาได้ค่ะ

เลือก คลินิกรักษาสัตว์ ที่มีบริการนอกสถานที่หรือ Pet Limo
สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ไม่มียานพาหนะส่วนตัวหรือไม่สะดวกในการนำสัตว์เลี้ยงมารักษาที่คลินิกด้วยตนเองคลินิกรักษาสัตว์ บางแห่งก็มีบริการนอกสถานที่เช่นกัน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงมีจำนวนมากรอรักษา ผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่หรือสัตว์เลี้ยงที่ปรับตัวกับสถานที่ใหม่ได้ยากและเครียดง่าย นอกจากนี้ คลินิกรักษาสัตว์ แห่งก็ยังมีบริการ Pet Limo หรือ Pet Taxi ซึ่งจะมารับสัตว์เลี้ยงของคุณและตัวคุณเองจากบ้านไปส่งถึงคลินิกและสามารถพาคุณและสัตว์เลี้ยงกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยค่ะ

เลือก คลินิกรักษาสัตว์ ที่มีแผนกแยกประเภทสัตว์เลี้ยงแบบเฉพาะ
สัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดมีนิสัยแตกต่างกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแมว เพราะแมวเป็นสัตว์ที่เครียดง่ายหากต้องไปอยู่ในสถานที่แปลกใหม่ ซึ่งความเครียดของแมวนั้นอาจทำให้การตรวจวินิจฉัยคลาดเคลื่อนได้ สำหรับผู้เลี้ยงแมว ขอแนะนำให้เลือก คลินิกรักษาสัตว์ ที่มีคลินิกแมวโดยเฉพาะ เพราะจะสามารถรักษาแมวได้อย่างตรงจุดโดยไม่ทำให้แมวรู้สึกเครียด

Digital Technology คืออะไร

Digital Technology คืออะไร

เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) คือ เทคโนโลยีที่ใช้ข้อมูลดิจิทัลเป็นพื้นฐานในการทำงาน เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การทำงาน การศึกษา บันเทิง และอื่นๆ เทคโนโลยีดิจิทัลมีรูปแบบต่างๆ มากมาย เช่น

อุปกรณ์ดิจิทัล เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต อุปกรณ์ IoT เป็นต้น
ซอฟต์แวร์ดิจิทัล เช่น ระบบปฏิบัติการ โปรแกรมประยุกต์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน เป็นต้น
เทคโนโลยีเครือข่าย เช่น อินเทอร์เน็ต Wi-Fi 5G เป็นต้น
เทคโนโลยีดิจิทัลมีผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยให้ผู้คนสามารถสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลและความรู้ได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างของเทคโนโลยีดิจิทัล ได้แก่

คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องประมวลผลข้อมูลดิจิทัลที่สามารถใช้ในการทำงานต่างๆ เช่น ประมวลผลเอกสาร กราฟิก วิดีโอ เกม เป็นต้น
โทรศัพท์มือถือ เป็นอุปกรณ์สื่อสารดิจิทัลที่สามารถใช้โทรออก รับสาย เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เล่นเกม ดูวิดีโอ และอื่นๆ
อินเทอร์เน็ต เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ช่วยให้ผู้คนสามารถสื่อสารกันได้ทั่วโลก
โซเชียลมีเดีย เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ผู้คนสามารถเชื่อมต่อกัน แบ่งปันข้อมูล และปฏิสัมพันธ์กัน
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาเครื่องจักรให้สามารถเรียนรู้และทำงานได้อย่างชาญฉลาด
เทคโนโลยีดิจิทัลมีแนวโน้มที่จะพัฒนาต่อไปอย่างต่อเนื่อง และจะมีบทบาทสำคัญในสังคมและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้นในอนาคต

กลัวการผ่าตัด แต่อยากยกกระชับผิว อัลเทอร่า ชลบุรี ช่วยได้

ปัญหาริ้วรอยที่ใบหน้า และผิวหน้าไม่กระชับ เป็นปัญหาที่สาว ๆ หลายคนหงุดหงิดใจ บางคนแทบจะเลิกส่องกระจกดูใบหน้า เพราะริ้วรอยฟ้องวัยกันเหลือเกิน สาเหตุของริ้วรอยที่ใบหน้าเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ สาเหตุหนึ่งคือ เกิดจากการลดลงของเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นหนังแท้ โดยเส้นใยทั้งสองเป็นเส้นใยที่ทำให้เกิดความยืดหยุ่นของผิวหนัง เมื่อเกิดการลดลงของเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน จึงทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นที่ใบหน้า นอกจากนี้เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันมีวิธีการรักษาด้วย อัลเทอร่า นวัตกรรมที่ช่วยในการยกกระชับผิวหย่อนคล้อยให้ตึงขึ้นค่ะ

อัลเทอร่า ชลบุรี ที่จะช่วยเรียกคืนผิวอ่อนเยาว์ให้กลับมา โดยใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง ยิงลงไปใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวหดตัวและยกกระชับขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน สามารถแก้ปัญหาผิวได้แม่นยำ ตรงจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ช่วยชะลออายุผิว และลดโอกาสเกิดริ้วรอยในอนาคต

ขณะทำ อัลเทอร่า จะรู้สึกเจ็บน้อยกว่า ด้วยเทคนิค SPT ที่ Customized หรือออกแบบมาเฉพาะบุคคล ทำให้แพทย์มองเห็นได้ถึงผิวชั้นลึก ก่อนยกกระชับใบหน้า สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม ลดโอกาสยิงพลังงานไปโดนกล้ามเนื้อ หรือกระดูก ยิงพลังงานลงลึกใต้ชั้นผิว โฟกัสได้แม่นยำ ตรงจุด และมีประสิทธิภาพ อัลเทอร่า ชลบุรี ที่หมอแนะนำสำหรับใครที่กลัวเจ็บ กลัวการผ่าตัด สามารถยกกระชับผิว ดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์มากกว่าเครื่องยกกระชับทั่วไป

หลังทำ อัลเทอร่า ชลบุรี แล้วเห็นผลการเปลี่ยนแปลง 30% จากนั้นผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามคอลลาเจนใหม่ที่สร้างขึ้นมา ผิวจะกระชับขึ้นใน 1-2 เดือน และเมื่อผ่านไป 2-3 เดือน จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี

อัลเทอร่า ชลบุรี ดีอย่างไร

– สามารถส่งคลื่นเสียงที่มีพลังงานความร้อนไปยังชั้นใต้ผิวหนังลงลึกได้ถึงตำแหน่งที่ต้องการ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ ใบหน้ายกกระชับ
– แพทย์สามารถมองเห็นภาพผิวหนังทุกชั้นผ่านหน้าจอของเครื่อง Ulthera ทำให้ปรับคลื่นเสียงที่เหมาะกับสภาพผิวมีความปลอดภัยสูง ประสิทธิภาพและผลการรักษาน่าพึงพอใจ
– เห็นผลการรักษาใน 3 เดือน
– สามารถเพิ่มความอ่อนเยาว์บนใบหน้า รูขุมขนเล็กลง ผิวยกกระชับ เรียบเนียนขึ้นทั้งบริเวณหน้า และคอโดยไม่ต้องผ่าตัด ให้ผลลัพธ์ที่คล้ายกับการดึงหน้า

เครื่องออกกำลังกาย ที่จำเป็นสำหรับ ออกกำลังกายที่บ้าน ที่ขาดไม่ได้

ใครที่อยากมีซิกแพ็คแต่ไม่อยากไปฟิตเนส อยากเลือก ออกกำลังกายที่บ้าน แต่ไม่รู้ว่าต้องใช้ เครื่องออกกำลังกาย อะไรบ้าง เชิญทางนี้เลยค่ะ เพราะวันนี้เราจะมานำเสนอเครื่องออกกำลังกายที่จำเป็นต้องมีติดห้อง ถ้าคุณไม่อยากเสียเวลาไปฟิตเนสล่ะก็ แต่อยากมี หุ่นดี สุขภาพดี เตรียมหาซื้อ เครื่องออกกำลังกาย เหล่านี้ได้เลย

ถามว่า ออกกำลังกาย แบบไม่มีอุปกรณ์ได้ไหม คำตอบคือได้ค่ะ แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าเรามีอุปกรณ์ที่มันจะช่วยให้เรามีรูปร่างที่ดียิ่งขึ้น กระชับยิ่งขึ้น จะให้ซิตอัพอย่างเดียวก็คงไม่ไหวหรอกนะ มันต้องมีตัวช่วยกันหน่อย เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่า เครื่องออกกำลังกายจำเป็นที่ว่าจะมีอะไรบ้าง

เสื่อโยคะ (Yoga Mat)
เสื่อโยคะถือว่าเป็นไอเท็มพื้นฐานที่ต้องมีติดบ้านไว้นะคะ เพราะการเล่นโยคะหรือออกกำลังกายบนพื้นแข็ง ๆ คงจะไม่ดีต่อสุขภาพของเราแน่ ซื้อติดบ้านไว้เถอะค่ะจะได้ไม่ต้องบ่นว่าปวดหลังอีกต่อไป

ยางยืดออกกำลังกาย (Flex Band, Resistance Yoga Band)
ใครที่งบไม่ถึงที่จะซื้อดัมเบลแล้วล่ะก็ ยางยืดออกกำลังกายสามารถทดแทนกันได้ค่ะ พกพาก็ง่าย น้ำหนักก็เบากว่า ไม่เปลืองพื้นที่อีกด้วย ใครอยากได้กล้ามแขน ต้นขากระชับในงบที่ไม่เยอะ ซื้อติดบ้านไว้ ค่ะรับรองว่าไม่ผิดหวัง

ดัมเบล (DUMBBEL)
ใครที่มีงบขึ้นมาหน่อย จัดดัมเบลเลยค่ะเพราะนี่คือตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้ต้นแขนและกล้ามเนื้อหลังของคุณกระชับขึ้น บอดี้เวทแบบง่าย ๆ ที่บ้านไม่ต้องไปไกลถึงฟิตเนส เล่นที่บ้านแบบสวย ๆ ก็ได้กล้ามแขนเหมือนกัน

เชือกกระโดด (SPEED ROPE)
เชือกกระโดดเป็นอุปกรณ์ที่หาได้ง่าย แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย พกพาก็สะดวก ใครที่ไม่อยากออกกำลังกายแบบจำเจลองซื้อเชือกมาไว้เล่นดูนะคะ แล้วอย่าลืมเปิดเพลงมันส์ ๆ ด้วยล่ะ รับรองว่าสนุกจนลืมเหนื่อยไปเลย

เคตเทิลเบล (Kettlebell)
เคตเทิลเบล หรือที่เราเรียกกันว่าลูกเหล็กยกน้ำหนักก็เป็นไอเท็มที่ควรมีติดบ้านเอาไว้ เพราะมันเปรียบเสมือนเครื่องยกน้ำหนักไซส์มินิ ใครที่ได้ลองเล่นแล้วรับรองว่าลืมเครื่องยกน้ำหนักเครื่องใหญ่เทอะทะไปเลย เพราะมันแทนที่กันได้ แถมยังไม่เปลืองพื้นที่อีกด้วย

ฮูลาฮูป (HULA HOOP)
ชูมือขึ้นแล้วหมุน ๆ ชูมือขึ้นโบกไปมา สาว ๆ ที่อยากมีเอว S เอวคอดเหมือนนาฬิกาทราย จะขาดอุปกรณ์ตัวนี้ไปไม่ได้นะคะ เพราะนี่คือไอเท็มเด็ดที่จะทำให้เอวของเราเล็ก บาง สวย จะใส่ชุดไหนก็ดูดี ไม่มีไม่ได้แล้วนะคะ

ลูกบอลออกกำลังกาย (GYM BALL)
ลูกบอลออกกำลังกายหรือโยคะบอล ถือว่าเป็นไอเท็มที่สาว ๆ ต้องมีติดบ้าน เพราะนอกจากท่าที่เราเล่นจะทำให้สุขภาพดีแล้ว ยังช่วยสร้างกล้ามเนื้อและทำให้รูปร่างดี กระชับขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะหน้าท้อง สะโพก ต้นขา ก้น แขน ไม่ว่าส่วนไหนของร่างกาย ลูกบอลโยคะเอาอยู่หมดค่ะ

9 กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ สร้างยอดขายเพิ่มขึ้น!

9 กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ สร้างยอดขายเพิ่มขึ้น!

การสร้างยอดขายออนไลน์สามารถทำได้โดยใช้กลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมและมีเสถียรภาพ นี่คือ 9 กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขายของคุณ:

  1. สร้างเว็บไซต์ที่ดี: การสร้างเว็บไซต์ที่มีดีได้จากการออกแบบที่ดี, การให้ข้อมูลที่ชัดเจน, และการให้ประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้เยี่ยมชม. เว็บไซต์ควรทำให้ผู้เยี่ยมชมสามารถหาข้อมูลและทำธุรกรรมได้อย่างสะดวก.
  2. ความสอดคล้องกับ SEO (Search Engine Optimization): การจัดการเว็บไซต์ของคุณให้สอดคล้องกับ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏบนหน้าแรกของผลการค้นหาในเครื่องมือค้นหา เช่น Google จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรับการเข้าถึงจากลูกค้าเป้าหมาย.
  3. การตั้งราคาและส่วนลดเพื่อดึงดูดลูกค้า: การตั้งราคาสินค้าหรือบริการอย่างคุ้มค่าและการให้ส่วนลดหรือโปรโมชันพิเศษสามารถดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้.
  4. การใช้สื่อสังคม: การใช้แพลตฟอร์มสื่อสังคมเพื่อสร้างความติดตาม, สร้างการแบรนด์, และเพิ่มการแอบอยากในร้านค้าออนไลน์ของคุณ.
  5. การตั้งเป้าหมายการตลาด (Market Targeting): การระบุกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าและสร้างกลยุทธ์การตลาดที่เน้นให้เข้าถึงกลุ่มนี้ได้อย่างเป็นประสบการณ์.
  6. การใช้การตลาดอีเมล: การสร้างรายชื่อส่งอีเมลและการส่งอีเมลที่มีคุณค่าสำหรับลูกค้าเพื่อสร้างความติดตามและขยายการขาย.
  7. การใช้การตลาดความสัมพันธ์ (Relationship Marketing): การสร้างความสัมพันธ์และความผูกพันกับลูกค้าของคุณผ่านการสื่อสังคมและการติดต่อตรงกับลูกค้า.
  8. การใช้การตลาดผ่านสื่อดิจิทัล (Digital Advertising): การใช้โฆษณาออนไลน์ เช่น โฆษณาบนสื่อสังคม, โฆษณาแบนเนอร์, และการโฆษณาการค้นหาเพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้า.
  9. การจัดการความติดตามและวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics): การใช้ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์การทำธุรกรรมและพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อปรับกลยุทธ์การตลาดและเพิ่มความสำเร็จในการขายออนไลน์.

การสร้างยอดขายออนไลน์ต้องใช้กลยุทธ์ที่สอดคล้องกับลักษณะของธุรกิจและลูกค้าของคุณ และควรติดตามและปรับกลยุทธ์ของคุณตามผลลัพธ์ที่คุณได้รับ.

โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง รู้ก่อน รักษาก่อน

“คัน” ทุกคนล้วนคุ้นและเคยมีอาการคันกันบ้าง แต่หากอาการคันเกิดขึ้นบ่อยๆ ต้องเกากันไม่หยุดจนน่ารำคาญ พาลทำให้ผิวหนังถลอก ก็คงทำลายความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย

“อาการคัน” จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะหากมีอาการคันบ่อยๆ ติดต่อกันนานๆ แบบเป็นๆ หายๆ รวมทั้งมีผื่นขึ้นร่วมด้วย เหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของ “โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง” ที่ปัจจุบันพบผู้ป่วยเป็นโรคนี้มากขึ้น ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และในบางรายก็พัฒนาเป็นโรคตุ่มน้ำพองที่บั่นทอนความมั่นใจและคุณภาพชีวิต

โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นโรคที่มีอาการอักเสบของผิวหนังอย่างเรื้อรังพบได้ตั้งแต่วัยทารกจนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่ โดยในแต่ละช่วงวัยจะมีลักษณะของผื่นที่แตกต่างกัน ถ้าเป็นในเด็กเล็ก จะพบผื่นบริเวณหน้า ศีรษะและบริเวณด้านนอกของเเขนขา เช่น ข้อศอก ในเด็กที่อายุ 2 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่ จะพบผื่นของโรคนี้บริเวณด้านในของแขนขา เช่น บริเวณข้อพับเเขน ข้อพับขา รอบคอ ข้อมือข้อเท้าได้ โดยผื่นจะมีลักษณะเป็นตุ่มแดงหรือผื่นแดงที่มีอาการคันมาก ในผู้ป่วยบางรายพบเป็นตุ่มน้ำใส เมื่อเกาแล้วจะแตกเป็นน้ำเหลืองและเกาะเป็นสะเก็ดบริเวณผื่น หรือหากทิ้งไว้จนเรื้อรัง ผื่นจะหนาเเข็งมากขึ้นได้

​สาเหตุของ โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเกิดจากการที่ผิวหนังของผู้ป่วยมีความไวต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ โดยเชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับปัจจัยด้านพันธุกรรม เช่น พบว่าผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังหรือคนในครอบครัว ส่วนมากจะมีอาการภูมิแพ้ เช่น แพ้อากาศ ไอ จามหรือหอบหืด เยื่อบุตาอักเสบได้ อย่างไรก็ตามผู้ที่ไม่มีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัวสามารถพบโรคนี้ได้เช่นกัน

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นโรคเรื้อรัง อาการของโรคจึงมักจะเป็น ๆ หาย ๆ โดยปัจจัยที่ทำให้โรคนี้กำเริบมากขึ้น ได้แก่ สิ่งเเวดล้อมที่มีสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ฝุ่น เกสรดอกไม้ เชื้อโรค ฤดูกาลและอากาศที่หนาวหรือร้อนจัด ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง เสื้อผ้าที่มีขน หรือเครื่องนุ่งห่มที่ทำจากขนสัตว์ อาหารบางประเภท เช่น ไข่ ถั่วลิสง นม ซึ่งพบมากในผู้ป่วยเด็กและความเครียด​วิธีการดูแลรักษาโรคนี้ ได้แก่ การหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ ที่ทำให้โรคเป็นมากขึ้น เช่น หลีกเลี่ยงการอาบน้ำที่มีอุณหภูมิร้อนจัดหรือเย็นจัด หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มากเกินไป หรืออาบน้ำบ่อยครั้งเกินไป เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนเหมาะสมกับผิว ลดความเครียดวิตกกังวล ทาโลชั่นหรือครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังอย่างสม่ำเสมอ หากอาการยังไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์ โดยยาที่ใช้รักษาโรคนี้ตัวอย่างเช่น ยาทากลุ่มสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบของผิวหนัง อย่างไรก็ตามเนื่องจากยากลุ่มนี้มีผลข้างเคียง เช่น สีผิวเปลี่ยนแปลง สิว ผิวหนังบางลง จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา และยากลุ่มต้านฮีสตามีนชนิดรับประทานเพื่อลดอาการคัน

สร้างธุรกิจแผนกลยุทธ์

สร้างธุรกิจแผนกลยุทธ์

การสร้างแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบและขั้นตอนสำคัญหลายประการ ต่อไปนี้เป็นโครงร่างทั่วไปที่จะช่วยคุณจัดโครงสร้างแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของคุณ:

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร:

ให้ภาพรวมของธุรกิจ พันธกิจ และวิสัยทัศน์ของคุณ
สรุปประเด็นสำคัญของแผนกลยุทธ์ของคุณ
คำอธิบายธุรกิจ:

อธิบายธุรกิจ ผลิตภัณฑ์หรือบริการ และอุตสาหกรรมหรือตลาดที่คุณดำเนินธุรกิจ
เน้นจุดขายที่โดดเด่นและความได้เปรียบในการแข่งขันของคุณ
วิเคราะห์การตลาด:

ทำการวิเคราะห์ตลาดเป้าหมายของคุณอย่างละเอียด รวมถึงขนาดตลาด แนวโน้ม และกลุ่มลูกค้า
ระบุลูกค้าเป้าหมายและความต้องการ ความชอบ และพฤติกรรมของพวกเขา
ประเมินคู่แข่งของคุณและจุดแข็งและจุดอ่อนของพวกเขา
การวิเคราะห์ SWOT:

ประเมินจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และภัยคุกคาม (SWOT) ที่ธุรกิจของคุณเผชิญอยู่
ระบุปัจจัยภายในที่ทำให้ธุรกิจของคุณมีความได้เปรียบในการแข่งขันและพื้นที่สำหรับการปรับปรุง
ประเมินปัจจัยภายนอก เช่น แนวโน้มของตลาด การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ หรือภาวะเศรษฐกิจ
เป้าหมายและวัตถุประสงค์:

กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและวัดผลได้ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจและวิสัยทัศน์ทางธุรกิจของคุณ
กำหนดเป้าหมายเฉพาะสำหรับการเติบโตของรายได้ ส่วนแบ่งตลาด การได้มาซึ่งลูกค้า หรือเมตริกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป้าหมายของคุณเป็นจริง บรรลุผล และมีเวลาจำกัด
กลยุทธ์และยุทธวิธี:

พัฒนากลยุทธ์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของคุณ
สรุปความคิดริเริ่มและกลยุทธ์ที่สำคัญที่คุณจะนำไปใช้เพื่อดำเนินกลยุทธ์ของคุณ
พิจารณาด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาดและการขาย การดำเนินงาน การบริการลูกค้า และการจัดการทางการเงิน
แผนการดำเนินงาน:

สร้างไทม์ไลน์และแผนปฏิบัติการโดยละเอียดเพื่อใช้กลยุทธ์และยุทธวิธีของคุณ
มอบหมายความรับผิดชอบให้กับสมาชิกในทีมและกำหนดเส้นตายสำหรับแต่ละงาน
กำหนดตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลัก (KPI) เพื่อติดตามความคืบหน้าและวัดความสำเร็จ
ประมาณการทางการเงิน:

จัดทำประมาณการทางการเงิน รวมถึงการคาดการณ์รายได้ งบประมาณค่าใช้จ่าย และงบกระแสเงินสด
พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ราคา ปริมาณการขาย ต้นทุนขาย ค่าใช้จ่ายทางการตลาด และต้นทุนการดำเนินงาน
ทำการวิเคราะห์ความละเอียดอ่อนเพื่อประเมินผลกระทบของสถานการณ์ต่างๆ ที่มีต่อการเงินของคุณ
การบริหารความเสี่ยง:

ระบุความเสี่ยงและความท้าทายที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคุณ
จัดทำแผนฉุกเฉินเพื่อลดความเสี่ยงและแก้ไขสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน
พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความผันผวนของตลาด การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน หรือภัยคุกคามจากการแข่งขัน
การติดตามและประเมินผล:

กำหนดเมตริกและกลไกการรายงานเพื่อติดตามความคืบหน้าสู่เป้าหมายของคุณ
ตรวจสอบและประเมินประสิทธิผลของแผนกลยุทธ์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ
ทำการปรับและปรับแต่งตามความจำเป็นตามเงื่อนไขของตลาด ผลตอบรับ หรือโอกาสใหม่ๆ
โปรดจำไว้ว่าแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์เป็นเอกสารแบบไดนามิกที่ควรได้รับการตรวจสอบและอัปเดตเป็นประจำเมื่อธุรกิจของคุณพัฒนาขึ้น ทำหน้าที่เป็นแผนงานเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจทางธุรกิจของคุณและให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และวัตถุประสงค์ระยะยาวของคุณ

อีบุ๊กคืออะไร?

อีบุ๊กคืออะไร?

e-book หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์คือหนังสือฉบับดิจิทัลที่สามารถอ่านได้บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน หรือ e-reader โดยเฉพาะ โดยทั่วไป E-books จะเผยแพร่ในรูปแบบดิจิทัล เช่น PDF, EPUB, MOBI หรือ AZW และสามารถดาวน์โหลดได้จากร้านค้าปลีกออนไลน์หรือห้องสมุดดิจิทัล

E-book มีข้อดีหลายประการเหนือหนังสือที่พิมพ์ออกมา เช่น พกพาสะดวก เข้าถึงง่าย และราคาย่อมเยา สามารถพกพาได้ง่ายในเครื่องเดียว และสามารถจัดเก็บหนังสือหลายเล่มในเครื่องเดียว นอกจากนี้ e-book มักจะซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าหนังสือฉบับพิมพ์ และ e-book บางเล่มมีให้ฟรีด้วยซ้ำ

E-books สามารถสร้างได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่เอกสารข้อความธรรมดาไปจนถึงสื่อสิ่งพิมพ์มัลติมีเดียที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นด้วยรูปภาพ วิดีโอ และคุณลักษณะเชิงโต้ตอบ สามารถสร้างขึ้นโดยผู้แต่งหรือผู้จัดพิมพ์แต่ละราย และสามารถครอบคลุมหัวข้อและประเภทที่หลากหลาย ตั้งแต่เรื่องแต่งและสารคดีไปจนถึงเอกสารทางวิชาการและทางเทคนิค

สร้างธุรกิจแผนกลยุทธ์ – เพื่อการเรียนรู้และใช้งาน

สร้างธุรกิจแผนกลยุทธ์ – เพื่อการเรียนรู้และใช้งาน

การสร้างหน่วยธุรกิจเชิงกลยุทธ์ – เพื่อการเรียนรู้และการนำไปปฏิบัติ

การสร้างหน่วยธุรกิจเชิงกลยุทธ์ (SBU) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการผลักดันการเติบโตและผลกำไรในองค์กร SBU เป็นองค์กรธุรกิจที่แตกต่างกันภายในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพันธกิจ วัตถุประสงค์ และกลยุทธ์ของตนเอง สิ่งนี้ทำให้ SBU สามารถมุ่งเน้นไปที่ตลาด ผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่เฉพาะเจาะจง และทำการตัดสินใจที่ปรับให้เหมาะกับพื้นที่เหล่านั้น

หากต้องการสร้าง SBU ขั้นแรก ให้ระบุโอกาสทางธุรกิจหรือช่องว่างในตลาดที่ SBU สามารถเติมเต็มได้ จากนั้น สร้างทีมที่อุทิศตนเพื่อ SBU รวมถึงผู้นำที่จะรับผิดชอบความสำเร็จของหน่วย ทีมนี้ควรมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตลาดและความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย

เมื่อทีมพร้อมแล้ว ให้พัฒนาพันธกิจและชุดของวัตถุประสงค์สำหรับ SBU สิ่งเหล่านี้ควรสอดคล้องกับพันธกิจและวัตถุประสงค์โดยรวมของบริษัทขนาดใหญ่ แต่ควรปรับให้เหมาะกับตลาดหรือผลิตภัณฑ์เฉพาะของ SBU ด้วย จากนั้นทีมสามารถพัฒนาชุดกลยุทธ์เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เหล่านั้น

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ SBU คือช่วยให้มีสมาธิในการตัดสินใจมากขึ้น ทีมงานสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็วและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากทีมงานสามารถจัดลำดับความสำคัญของการลงทุนในส่วนที่จะส่งผลกระทบมากที่สุดต่อความสำเร็จของ SBU

นอกเหนือจากการผลักดันการเติบโตและความสามารถในการทำกำไร SBU ยังสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการเรียนรู้และการพัฒนาภายในองค์กร ด้วยการสร้างทีมเฉพาะเพื่อมุ่งเน้นไปที่ตลาดหรือผลิตภัณฑ์เฉพาะ องค์กรสามารถได้รับความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในด้านนั้นและพัฒนาความเชี่ยวชาญที่สามารถนำไปใช้ทั่วทั้งบริษัทได้

โดยรวมแล้ว การสร้างหน่วยธุรกิจเชิงกลยุทธ์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการผลักดันการเติบโตและความสามารถในการทำกำไรในองค์กร ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาด้วย

ข้อควรรู้เกี่ยวกับโกดังให้เช่า โคราช และคลังสินค้าให้เช่า

1. ภาพรวมของโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย

ตลาดโกดังให้เช่า โคราช และคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทยแล้วพบว่ามีพื้นที่ให้เช่าอยู่ที่ประมาณ 3.5-4 ล้านตารางเมตร มีอัตราการเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 80-90 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งทั้งดีมานและซัพพลายของตลาดโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่ายังมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นในทุกๆปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมและเป็นที่ต้องการของอสังหาให้เช่าประเภทนี้ได้อย่างดี โดยส่วนหนึ่งได้รับอานิสงค์มาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด E-Commerce ในประเทศไทย เนื่องจากบริษัทเหล่านี้นิยมเช่าโกดังหรือเช่าคลังสินค้าไว้เป็น Distribution Center เพื่อทำการจัดเก็บสินค้า คัดแยกและจัดส่งสินค้าไปให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศ

โกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่านิยมตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพและปริมณฑลซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่เพิ่อความสะดวกในการกระจายและขนส่งสินค้าไปทั่วประเทศ อีกทั้งยังนิยมตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินและท่าเรือน้ำลึกเพื่อความสะดวกในการนำเข้าและส่งออกสินค้า ส่วนจังหวัดที่เป็นที่นิยมและมีปริมาณโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่ามากเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทยนั้นได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง เป็นต้น

2. รูปแบบและขนาดอาคารโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่า

โกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าในตลาดส่วนใหญ่จะมีขนาดตั้งแต่ 500 ตารางเมตร จนถึงขนาด 5,000 ตารางเมตร โดยมีรูปแบบอาคาร 2 ประเภทดังนี้คือ
2.1 อาคารแบบ Attached

อาคารโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าแบบ Attached คือ อาคารขนาดใหญ่ที่กั้นแบ่งให้เช่าเป็นห้องๆ โดยใช้ผนังเดี่ยวกันเหมือนกับทาวน์เฮ้าส์ จะนิยมสำหรับโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าขนาดเล็กตั้งแต่ 500 – 2,000 ตารางเมตร ที่ไม่ต้องการใช้พื้นที่ภายนอกอาคารมากนัก ข้อดีหลักของอาคารแบบนี้คือราคาค่าเช่าที่ถูกกว่า ส่วนข้อด้อยนั้นคือมีพื้นที่ภายนอกอาคารที่น้อยกว่าและเรื่องความเป็นส่วนตัวเพราะต้องใช้บริเวณภายนอกและผนังร่วมกับโกดังคลังสินค้าของบริษัทอื่นซึ่งอาจเกิดปัญหาตามมาได้ค่ะ

2.2 อาคารแบบ Detached

อาคารโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าแบบ Detached หรือแบบ Stand-alone คืออาคารโกดังคลังสินค้าให้เช่าที่มีพื้นที่หรือรั้วโดยรอบ เหมือนบ้านเดี่ยว ทำให้โกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าแบบนี้มีพื้นที่ใช้สอบภายนอกที่กว้างกว่าแบบ Attached และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าด้วยการที่ตัวอาคารไม่ติดกับโกดังคลังสินค้าของบริษัทอื่นๆ อีกทั้งยังมีพื้นที่หรือรั้วกันระหว่างกันอีกด้วยค่ะ โดยส่วนใหญ่จะนิยมสำหรับโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าที่มีขนาดตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป ข้อดีหลักของอาคารแบบนี้ก็คือพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่จอดรถที่มากกว่า อีกทั้งยังมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าอีกด้วย ส่วนข้อเสียก็คือโดยส่วนใหญ่อาคารแบบ Detached จะมีราคาเช่าที่แพงกว่าเพราะมีพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าและต้องใช้ขนาดที่ดินที่ใหญ่กว่าในการก่อสร้างนั่นเองค่ะ

อีกหนึ่งรูปแบบของอาคารโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าที่สามารถเลือกได้ตามความสะดวกในการใช้งานก็คือ “อาคารแบบยกพื้น” และ “อาคารแบบไม่ยกพื้น” โดยอาคารแบบยกพื้นจะมีข้อดีในด้านความสะดวกในการขึ้นและลงสินค้าซึ่งสามารถให้รถขนส่งสินค้า เช่น รถหกล้อ รถสิบล้อ หรือรถเทลเลอร์ จอดเทียบกับอาคารเพื่อทำการขึ้นลงสินค้าได้อย่างสะดวก โดยทั่วไปแล้วอาคารแบบยกพื้นจะมีความสูงอยู่ที่ 1.2 – 1.4 เมตร เพื่อให้พอดีกับความสูงของท้ายรถขนส่ง อีกทั้งอาคารรูปแบบนี้ยังสามารถติดตั้งสะพานปรับระดับ( Dock Leveler) ที่สามารถปรับระดับความสูงได้ตามความสูงของรถขนส่งยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการขึ้นลงสินค้ายิ่งขึ้นไปอีกค่ะ ส่วน “อาคารแบบไม่ยกพื้น” นั้นส่วนใหญ่จะเหมาะสำหรับการใช้งานโกดังคลังสินค้าที่ต้องมีการนำรถขนส่งเข้าไปขึ้นและลงของในตัวอาคารนั่นเองค่ะ

3. ราคาค่าเช่าของโกดังและคลังสินค้าในประเทศไทย

ราคาค่าเช่าโกดังและคลังสินค้าจะคิดเป็นต่อตารางเมตรต่อเดือน โดยอยู่ที่ประมาณ 130 – 170 บาทต่อตารางเมตรขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งที่โกดังและคลังสินค้าให้เช่านั้นๆตั้งอยู่ ยกตัวอย่างเช่น บริเวณโดยรอบและภาคตะวันออกของกรุงเทพมหานครได้แก่บริเวณเขตลาดกระบัง บริเวณจังหวัดสมุทรปราการ บริเวณถนนบางนาตราด จะมีราคาค่าเช่าที่สูงกว่าบริเวณอื่นเนื่องจากอยู่ใกล้กับทั้งกรุงเทพมหานครและสนามบินสุวรรณภูมิ อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือคลองเตยและท่าเรือแหลมฉบัง ทำให้สะดวกอย่างมากในการขนส่งและกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ โดยบริเวณเหล่านี้จะมีค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 160 -170 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

ส่วนบริเวณเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อีสเทิร์นซีบอร์ด เช่น จังหวัดระยอง และจังหวัดชลบุรีโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าในบริเวณนี้จะมีค่าเช่าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 148 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน แต่อย่างไรก็ตามด้วยสภาพตลาดโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าในปัจจุบันที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ทำให้ซัพพลายของโกดังและคลังสินค้าให้เช่าเหล่านี้สูงขึ้นมากเช่นเดียวกัน จึงทำให้ราคาค่าเช่าค่อนข้างคงที่และไม่ปรับตัวสูงขึ้น

4. ประโยชน์ของการเช่าโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่า

ข้อดีของการเช่าโกดังและคลังสินค้านั้นมีหลายข้อด้วยกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้เงินทุนที่น้อยกว่าการซื้อหรือการสร้าง ความสะดวกสบายในการใช้งาน การประหยัดค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา เป็นต้น แต่ข้อดีที่เด่นชัดที่สุดก็คือ ความสะดวกรวดเร็วในการย้ายสถานที่หรือเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บสินค้า ข้อดีนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับยุคสมัยนี้ที่โลกธุรกิจเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเร็วตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการย้ายเพื่อเช่าโกดังหรือเช่าคลังสินค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือเพิ่มพื้นที่การเช่าอาคารเพราะธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว หรือการย้ายสถานที่ตั้งโกดังคลังสินค้าเนื่องจากต้องย้ายตามลูกค้ารายใหญ่ ก็สามารถทำได้อย่างทันทีเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าค่ะ

เนื่องจากนี้โกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าจะถูกออกแบบและก่อสร้างไว้พร้อมเข้าใช้งาน ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจได้ทันที อีกทั้งโกดังห้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้มีพื้นที่สำนักงาน และพื้นที่จัดเก็บสินค้า รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเช่น โรงจอดรถ ลานขึ้นลงสินค้า ป้อมยาม เป็นต้น ไว้ในที่เดียวกันจึงทำให้ผู้เช่าโกดังและเช่าคลังสินค้าใช้อาคารได้อย่างสะดวกสบายและประหยัดค่าเช่าเพราะไม่ต้องหาเช่าพื้นที่สำนักงานเพิ่มเติม สามารถจัดตั้งบริษัทและโกดังคลังสินค้าได้ในที่เดี่ยวค่ะ

ในปัจจุบันเราสามารถหาข้อมูลคลังสินค้าให้เช่าและโกดังให้เช่าได้อย่างง่ายดายบนอินเตอร์เน็ตเพียงปลายนิ้วคลิก ท่านผู้ประกอบการสามารถเลือกดูโกดังคลังสินค้าที่ตรงกับการใช้งานสำหรับธุรกิจของท่าน เช่น ขนาดอาคาร ฟังก์ชั่นการใช้งาน ขนาดสำนักงาน รูปแบบการขึ้นลงสินค้า การรับน้ำหนักของพื้นอาคาร เป็นต้น ควรเลือกอาคารโกดังคลังสินค้าให้เช่าที่สนใจมาอย่างน้อย 3 แห่งเพื่อทำการนัดหมายเข้าเยี่ยมชมสถานที่จริง

การเลือกคลังสินค้าให้เช่าและโกดังให้เช่านั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดและมองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือเรื่องของทำเลที่ตั้ง คลังสินค้าให้เช่าและโกดังให้เช่าควรตั้งอยู่ในทำเลที่มีระบบการขนส่งเหมาะกับสำหรับธุรกิจของท่านผู้ประกอบการ เช่น หากสินค้าของท่านขนส่งทางเครื่องบินเป็นหลัก คลังสินค้าให้เช่าและโกดังให้เช่าควรตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน เป็นต้น อีกทั้งอาคารโกดังคลังสินค้าควรตั้งอยู่ไม่ไกลจากตลาดผู้บริโภคและจากลูกค้าเพื่อเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า นอกจากนี้สถานที่ตั้งคลังสินค้าให้เช่าและโกดังให้เช่าควรมีระบบคมนาคม ระบบโลจิสติกส์ และระบบสาธารณูปโภคที่ดีด้วยค่ะ

5 ข้อต้องรู้เกี่ยวกับโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่า

หากพบคลังสินค้าให้เช่าและโกดังให้เช่าที่ตรงความต้องการแล้ว ควรเข้าเยี่ยมชมสถานที่จริงอย่างน้อย 2-3 ครั้ง เพื่อสังเกตสภาพการจราจรในแต่ละช่วงเวลาของสถานที่นั้นและจัดทำตารางเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของแต่ละแห่ง สิ่งที่ควรพิจารณาต่อไปก็คือ โครงสร้างอาคาร อายุของตัวอาคาร ถนนและพื้นที่หน้าอาคาร ความสูงของอาคาร รูปแบบส่วนขึ้นลงสินค้า( Loading Docks) พื้นที่จอดรถ การรับน้ำหนักของตัวอาคาร ระบบความปลอดภัยในโครงการ ระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย แหล่งแรงงานการจัดหาแรงงานที่มีคุณภาพ ที่พักพนักงาน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ระบบการระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม และสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆคลังสินค้าให้เช่าและโกดังให้เช่าที่เราสนใจ ให้มั่นใจก่อนที่จะเริ่มทำการเช่าโกดังหรือเช่าคลังสินค้าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลังค่ะ

โดยสรุปตลาดโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทยกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนหนึ่งได้อานิสงค์มาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด E-Commerce ในประเทศไทย เนื่องจากบริษัทเหล่านี้นิยมเช่าโกดังหรือเช่าคลังสินค้าสำหรับใช้งาน แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลมาจากข้อดีต่างๆของอาคารให้เช่าเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกรวดเร็วในการย้ายสถานที่หรือเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บสินค้า ซึ่งตอบโจทย์สภาพการแข่งขันทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันได้อย่างดี อีกทั้งยังมีประโยชน์ด้านความสะดวกสบายในการใช้งานอีกด้วย จากความนิยมที่มากขึ้นนี้ทำให้ในปัจจุบันมีโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าสร้างมาให้เลือกมากมาย ผู้ประกอบการสามารถเลือกได้ตามที่ตั้ง ขนาด และฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะสมกับธุรกิจของท่านค่ะ